องค์พ่อพิฆเนศ
บันดาลความสำเร็จ สุขสมหวังดังปรารถนา
ลงพระลักษ์หน้าทอง 15 ล้านบาท ศาสตร์ชั้นสูงที่เสริมด้านโภคทรัพย์ เสริมดวงชะตา เมตตารายบุคคล ทั้งพิธีประกอบไปด้วย เพชร พลอย มณีนพเก้าและทองคำแท้ โดยอาจารย์เอ จักรพรรดิ คิดค่าครูเพียงคนละ 9 บาท เท่านั้น
การลงพระลักณ์หน้าทองนั้น ไม่ใช่แค่การเสริมด้านเมตตาอย่างเดียว แต่เป็นการเสริมดวงชะตาแก่ผู้ที่มาลงพระลักษณ์หน้าทองด้วยเช่นกัน เนื่องจากศาสตร์นี้เป็นสายพระพรหม (พราหมณ์-ฮินดู) เพราะตามความเชื่อ พระพรหมท่านคือผู้ลิขิตชีวิตของมนุษย์ และสรรพสิ่งในจักรวาลนี้
อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่อาจารย์เอ จักรพรรดิ ต้องใช้เพชร พลอย มณีนพเก้าและทองคำแท้เพื่อประกอบในพิธี เนื่องจากว่าสิ่งเหล่านี้ มีพลังงานสูงสุดในทางด้านดี แก่ดวงชะตาของผู้ที่ได้ลงพระลักษณ์หน้าทอง ช่วยเสริมในเรื่องทรัพย์ เมตตา บารมี เป็นที่รักแก่เทวดาและมนุษย์นั่งเอง
อ่านต่อ...งานบุญผ้าป่าสามัคคี วัดชัยเภรีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี โดยอาจารย์เอ จักรพรรดิ พร้อมคณะลูกศิษย์ ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ ซึ่งใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 30 วัน ในการบอกบุญ รวมยอดเงินงานบุญผ้าป่าในครั้งนี้ ได้มากกว่า 10 ล้านบาท
เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 9 เมษายน 2566 อาจารย์เอ จักรพรรดิ พร้อมคณะลูกศิษย์ ได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพบุญผ้าป่า เพื่อสร้างเจดีย์มีวาสนา ซึ่งเป็นการอันเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากประเทศศรีลังกามาไว้ที่เจดีย์มีวาสนา วัดชัยเภรีย์ หมู่ที่ 3 ตำบลพลับพลาไชย อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งมีพระครูสุวรรณธรรมาภิรักษ์ ปุญฺญูปถมฺโภ (หลวงพ่อบุญค้ำ) เกจิชื่อดังด้านเมตตามหานิยมเป็นเจ้าอาวาส
โดยภายในงานมีทั้งคณะลูกศิษย์ และผู้ที่ติดตามมาจากทางแฟนเพจ เอ จักรพรรดิ พร้อมใจกันเดินทางมาจากทั่วสารทิศ และร่วมกันแต่งกายด้วยชุดไทยสีขาว หรือโทนสว่างเพื่อให้งานบุญผ้าป่าในครั้งนี้ เต็มไปด้วยความปราณีต ความสวยสดงดงามอย่างที่ทุกคนตั้งใจไว้ ส่วนหนึ่งยังร่วมกันทำบุญโรงทาน นำอาหารเครื่องดื่มต่างๆ มาแจกจ่ายแก่ผู้ที่มาร่วมงานบุญผ้าป่านับหลายพันคน ซึ่งภายในงานจะเห็นได้ทันทีเลยว่า ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใสกันตลอดทั้งงาน แม้อากาศจะร้อนขนาดไหนก็ตาม หลายคนอายุมาก หลายคนมีปัญหาเรื่องสุขภาพทำให้ต้องนั่งรถเข็น บ้างมาจากจังหวัดที่ไกลๆ แต่ทุกคนมีจุดหมายปลายทางที่เหมือนกัน คือ ต้องการร่วมบุญใหญ่ในครั้งนี้ไปด้วยกัน หรือบางคนมีความหวังที่อยากจะได้เจออาจารย์เอ ซึ่งหลังจากที่อาจารย์เอ จักรพรรดิ มาถึงที่วัดชัยเภรีย์ ลูกศิษย์ต่างวิ่งเข้ามากอด หลายคนน้ำตาไหล ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งภาพแห่งความประทับใจ เพราะอาจารย์เอ จักรพรรดิ มาอยู่ในสายบุญนี้เพียง 8 เดือนเท่านั้น ทำให้ตัวอาจรย์เอ จักรพรรดิ ไม่คิดเลยว่าจะมีผู้คนศรัทธาในสิ่งที่ทำมากขนาดนี้
แห่งเดียวในสยาม องค์พระพิฆเนศ ปางเศรษฐีสยาม ขอความร่ำรวย มั่งคั่ง ความสำเร็จดั่งปรารถนา และ ปู่พญานาคองค์สีขาว 7 เศียร ขอความร่มเย็นเป็นสุขแก่ชีวิต ณ จักรพรรดิเทวาลัย องค์พระพิฆเนศ ปางเศรษฐีสยาม หนึ่งแลนด์มาร์คแห่งใหม่ในประเทศไทย ที่ถูกออกแบบโดยอาจารย์เอ จักรพรรดิ ซึ่งองค์พระพิฆเนศ ปางเศรษฐี สยามนี้ เด่นในด้านการประทานพร ขอโชคขอลาภ ขอความร่ำรวย และมั่งคั่ง เพราะเพียงแค่เครื่องประดับของท่านรวมๆ แล้วประมาณ 10 ล้านบาท
จักรพรรดิเทวาลัยแห่งนี้เป็นความตั้งใจของ อาจารย์เอ จักรพรรดิ ที่ต้องการสร้างเพื่อเป็นที่สักการะบูชาของผู้ที่พบเห็น เป็นที่ประทับของพ่อปู่พญานาคองค์สีขาว และองค์พระพิฆเนศ ปางเศรษฐีสยาม ซึ่งองค์พระพิฆเนศ ปางเศรษฐีสยามนั้น ถูกออกแบบโดยอาจารย์เอ จักรพรรดิ ถือได้ว่าเป็นปางเดียว และปางแรกในโลกเลยก็ว่าได้ ความสูงขององค์พระพิฆเนศ ปางเศรษฐีสยาม สูงประมาณ 2.5 เมตร พร้อมมีการตกแต่งด้วยเครื่องประดับจากทองคำแท้ มูลค่ารวมแล้วกว่า 10 ล้านบาท สำหรับผู้ที่เข้ามากราบไหว้ขอพรจากท่าน ท่านจะประทานความสำเร็จ ความมั่งคั่ง ร่ำรวยเงินทอง และความอุดมสมบูรณ์แก่ผู้ที่ศรัทธาในพระองค์ท่าน
จักรพรรดิเทวาลัยแห่งนี้ยังมี “ปู่พญานาคองค์สีขาว 7 เศียร” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความตั้งใจของอาจารย์เอ จักรพรรดิ ที่ต้องการจะสร้าง “องค์ปู่พญานาคสีขาว 7 เศียร” เพื่อเป็นที่สักการะ เคารพบูชาของผู้ที่เข้ามากราบไหว้ขอพร ขอความร่มเย็นเป็นสุข และเสริมบารมีแก่ชีวิต สิ่งที่พิเศษไปกว่านั้น “ปู่พญานาคองค์สีขาว” เป็นงานปั้นสดทั้งหมด กล่าวคือ ทุกชิ้นงานที่เป็นส่วนประกอบของปู่พญานาค จะใช้มือปั้นทั้งหมด แม้แต่เกล็ดบนลำตัวของท่าน ก็เน้นเป็นการปั้นทีละชิ้น เพื่อให้ออกมาดูสวยงามมากที่สุด ปราณีตมากที่สุด หากได้เข้าไปดูใกล้ๆ ทุกคนจะเห็นถึงความปราณีต ความละเอียดอ่อนของงานปั้นชิ้นนี้ จึงสามารถเรียกได้ว่าเป็น “สถาปัตยกรรมอันล้ำค่า” ของพวกเราทุกคนอีกด้วย
อ่านต่อ...คเณศจตุรถี เทศกาลยิ่งใหญ่แห่งปี “ณ จักรพรรดิเทวาลัย” โดยอาจารย์เอ จักรพรรดิ พร้อมเปิดตัวองค์พระพิฆเนศ “ปางเศรษฐีสยาม” หนึ่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งโดดเด่นในเรื่องการขอโชคลาภเงินทอง และความสำเร็จ
เดิมทีเทศกาลคเณศจตุรถี มีจุดเริ่มต้นจากประเทศอินเดีย โดยเฉพาะศาสนาฮินดู ที่มีความเชื่อเรื่ององค์เทพ อาทิ พระพิฆเนศ พระแม่อุมาเทวี พระศิวะ พระพรหม ฯลฯ ซึ่งก็ไม่ได้แตกต่างจากความเชื่อของไทยเรา วัตถุประสงค์โดยแท้จริงแล้วของวันคเณศจตุรถี คือ การเฉลิมฉลองวันประสูติขององค์พระพิฆเนศ ตรงกับช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายนตามปฏิทินเกรกอเรียน
สำหรับจักรพรรดิเทวาลัยนั้น ได้เริ่มจัดตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน – 19 ตุลาคม 2566 เป็นระยะเวลา 1 เดือนเต็ม ซึ่งจะมีอยู่ 4 วันเป็นพิธีใหญ่ของงานที่จะลงท้ายด้วยเลข 9 ตามวันและเวลาที่อาจารย์เอได้ดูฤกษ์ไว้ว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมและดีที่สุด โดยพิธีใหญ่วันแรก คือ วันรับเสด็จ(19 กันยายน) วันที่สอง(29 กันยายน) คือ วันสรรเสริญและขอพร วันที่สาม(9 ตุลาคม) คือ วันเฉลิมฉลอง และวันที่สี่(19 ตุลาคม) คือ วันส่งเสด็จกลับนั่นเอง
พิธีเสาร์ 5 มหาฤกษ์ยิ่งใหญ่แห่งปี วันแห่งการเริ่มต้นดวงใหม่
เสาร์ 5 วันแรง วันที่ดวงทุกคนเกิดการปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ด้วยพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ จากเหล่าครูบาอาจารย์สายล้านนา และสายเขาอ้อ พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ณ จักรพรรดิเทวาลัย
วันแรก วันแข็ง ตามคติที่เราเคยได้ยิน สิ่งที่ว่ามานั้นคืออะไร? วันที่เรานิยามมันขึ้นมาเอง หรือเป็นวันที่ตรงตามปฏิทิน อีกนัยหนึ่งเป็นวันที่โหรต่างๆ ออกมาทำนายทายทัก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สิ่งที่เรียกว่าความเชื่อ ถูกส่งต่อกันมาหลายชั่วอายุคน บนรากฐานของศาสนา วัฒนธรรม ทั้งไทย พราหมณ์และเขมรนั่นเอง
สำหรับ “วันเสาร์ 5” หมายถึง วันเสาร์ ข้างขึ้นหรือแรมก็ได้เช่นกัน หากยิ่งข้างขึ้นจะส่งผลให้มีความรุนแรงมากกว่าข้างแรมหลายเท่า ถ้าเปรียบเป็นเปอร์เซ็นข้างขึ้นคือ 100% ข้างแรมคือ 80% และยังหมายถึงวันดวงแข็ง ดวงแรง ซึ่งเชื่อว่าหากใครที่มีวิชาได้ทำการปลุกเสกเครื่องราง แม้แต่พระเกจิที่มีวิชาด้านเครื่องราง หากทำพิธีในวันดังกล่าวจะยิ่งทวีความแรงด้านพุทธคุณมากขึ้นกว่าเดิม
โดยปีนี้ “วันเสาร์ 5” ตรงกับวันเสาร์ ที่ 13 เมษายน 2567 ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 เรียกว่าเป็นวันที่ฤกษ์สมบูรณ์ที่สุด และยังตรงกันวันปีใหม่ไทยที่เหมาะแก่การเริ่มต้นชีวิตใหม่ อีกทั้งเป็นปีมะโรงหรือปีมังกรที่เชื่อกันว่ามีทั้งอำนาจ ความเป็นใหญ่แห่งผู้นำมากด้วยทรัพย์บารมี
พระพิฆเนศ เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “คชานนท์” ซึ่งเป็นพระโอรสของพระศิวะกับพระศรีมหาอุมาเทวี โดยมีลักษณะกายเป็นมนุษย์ มีเศียรเป็นช้าง มีพระกรรณกว้างใหญ่ งวงยาว มีงาข้างเดียว โดยลักษณะรูปร่างของพระองค์แสดงถึงความเป็นสิริมงคล ความหมายในแต่ละส่วนของท่าน เปรียบได้ดังนี้
พระเศียร ทรงมีเศียรอันใหญ่ เปี่ยมล้นไปด้วยปัญญาความรู้ เป็นแหล่งที่รวมปัญญาทั้งหมด
พระกรรณ ทรงใช้รับฟังคำสวดจากพระคัมภีร์และรับฟังความรู้ จากสิ่งอื่นๆ เปรียบเป็นสิ่งแรกแห่งการศึกษา
งวง ได้รับเลือกจากการเฟ้นหาทวิลักษณะ ความผิด-ถูก ความดี-ความชั่ว ซึ่งมีงวงช้างที่ยาวและใหญ่ สำหรับการใช้ชั่งน้ำหนักต่อการกระทำหรือการค้นหาสิ่งที่ดีงามต่างๆ และปัญญานั้นเกิดขึ้นเพื่อช่วยในการแก้ไขปัญหาของชีวิตให้หลุดพ้นจากอุปสรรคทั้งปวง นำไปสู่ความสำเร็จที่สมดั่งปรารถนา
อ่านต่อ...มหามงคลแห่งปี 2 พิธีใหญ่ วันแห่งความสำเร็จ กับ คเณศชยันตี และพร้อมพรั่งด้วยสติปัญญา กับเทศกาลวสันตปัจมี
จักรพรรดิเทวาลัยจัดเทศกาลคเณศชยันตี น้อมรับพรอันประเสริฐจากพระพิฆเนศ ผู้มากด้วยความสำเร็จ ความอุดมสมบูรณ์ และเทศกาลวสันตปัญจมี วันแห่งกการบูชาพระแม่สุรัสวดี เทวีแห่งสติปัญญา และความรู้
ถวายเงินซื้อที่ดินคืนวัดสันมะเกี๋ยง กว่า 7 ล้าน พร้อมพิธีไหว้รับดาวพฤหัสบดี เสริมดวงชะตา พลิกชีวิต ด้วยฐานบุญอันยิ่งใหญ่ กับ อาจารย์เอ จักรพรรดิ
มหากุศลอันยิ่งใหญ่ ร่วมสมทบเงินบริจาคเพื่อซื้อที่ดินถวายวัด ด้วยบุญนี้กลายเป็นเงินมากกว่า 7 ล้านบาท อานิสงส์ของการถวายที่ดินแก่วัดนั้น จะยิ่งส่งผลให้ชีวิตมีแต่ความเจริญก้าวหน้า บุญบารมีที่ได้จากการสร้างวัดสร้างโบสถ์ยิ่งใหญ่มหาศาล ทั้งทรัพย์ อำนาจ ความเจริญในทุกด้านจะช่วยอำนวยอวยผลให้ชีวิตพบเจอแต่สิ่งที่ดี สิ่งชั่วร้ายต่างๆ จะไม่เข้ามากล้ำกราย
ด้วยความตั้งใจของอาจารย์เอ จักรพรรดิ ต้องการที่จะร่วมสร้างบุญใหญ่ ด้วยการถวายที่ดินแก่วัดสันมะเกี๋ยง เนื่องจากที่ดินดังกล่าวเคยเป็นวัดมาก่อน ทำให้มีเจดีย์เก่าแก่ที่ภายในบรรจุด้วยพระบรมสารีริกธาตุอันศักดิ์สิทธิ์ไว้ ชาวบ้านที่อยู่บริเวณหมูบ้านนั้น ยังพูดเป็นปากต่อปากกันว่า “ที่ดินตรงนี้มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก” แม้แต่พระอาจารย์เตเองก็กล่าวแบบนั้นเช่นกัน
จุดเริ่มต้นของบริษัทจักรพรรดิมั่งคั่ง ก่อตั้งโดยคุณ ธนกฤต โรจนตรีภูมิ หรือที่คนส่วนมากในโลกโซเชียลรู้จักกันในนามว่า “เอ จักรพรรดิ” อาจารย์เอเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จมาจากการปั้นแบรนด์สินค้าและขายสินค้าออนไลน์ระดับ 500ล้านบาทต่อปีมาแล้ว แต่ด้วยวิกฤตทางเศรษฐกิจ หลาย ๆ โครงการที่กำลังเดินหน้าต้องหยุดชะงัก เช่นเดียวกับเม็ดเงินลงทุนที่หายไปทั้งหมด
ในขณะช่วงวิกฤตนี้เอง อาจารย์เอมีโอกาสได้พูดคุยกับซินแสที่อาจารย์เอนับถือกันมานาน ซึ่งอาจารย์เอก็ได้คำแนะนำหลายอย่าง ๆ จากท่าน รวมถึงเครื่องรางที่ผ่านพิธีกรรมอย่างถูกต้องมาบูชาโดยเฉพาะปี่เซียะจักรพรรดิ ทุกอย่างกลับฟื้นภายในเวลาไม่กี่เดือน จากติดลบหลักร้อยล้านกลับมายืนในจุดเดิมได้อย่างสง่างาม
อ่านต่อ...